สถานการณ์ COVID-19ของประเทศไทยในขณะนี้ ส่งผลให้ประเทศเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชีวิตประจำวันของคนในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงานหรือไปเรียน การออกไปซื้อของต่างๆหรือการไปออกกำลังกายก็ตาม ล้วนแต่ต้องชะลอกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ แล้วอยู่บ้านเพื่อทำกิจกรรมเหล่านี้ทางออนไลน์แทน ซึ่งในอนาคตอาจจะเกิดสิงที่เรียกว่า New Normal หรือ ความปกติในรูปแบบใหม่ นั่นหมายถึง พฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ส่งผลให้การใช้ชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนไป ซึ่งเราต้องมีแนวทางในการวางแผนชีวิตและการลงทุนในอนาคตต่อไปได้ ดังนี้
1. ธุรกิจที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เมื่อก่อนการผลิตสินค้าหนึ่งชิ้นนั้น ส่วนประกอบต้องมาจากหลายประเทศตามสิ่งที่ประเทศนั้นๆมีวัตถุดิบหรือเป็นผู้ผลิตเองโดยตรง อย่างเช่น มือถือ 1 เครื่องอาจะประกอบที่ประเทศจีน แต่ส่วนประกอบนั้นมาจากหลายประเทศ ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์ COVID-19 ทำให้บางประเทศต้องปิดประเทศ ส่งผลให้วัตถุดิบบางอย่างเริ่มขาดแคลน ทำให้บริษัทต่างๆเน้นการหันกลับมาใช้ทรัพยากรหรือวัตถุดิบที่มีอยู่ในประเทศและผลิตแค่ในประเทศกันมากขึ้น
2. ระยะห่างจะกลับมา หลังจากที่อินเทอร์เน็ตอำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารแบบไร้รอยต่อ แต่เมื่อมีสถานการณ์COVID-19 ส่งผลให้มีการใช้นโยบายเข้มงวดในการกำหนดด้านผู้คนในการเข้าเมืองและขอวีซ่า แต่สำหรับด้านธุรกิจถือเป็นเรื่องดีเพราะมีการปรับเปลี่ยนให้หันมาบริโภคสินค้าและบริการในท้องถิ่นมากกว่าต่างประเทศและบางทีอาจจะมีการต่อต้านกระแสโลกแบบโลกาภิวัฒน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลมาจากการมาตรการต่าง ๆ ที่ใช้ป้องกันการระบาดของ COVID-19
3. Work from home และ Learn from home จะกลายเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากสถานการณ์COVID-19 ที่ระบาดจึงส่งผลให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัย เลือกวิธีการติดต่อการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์มากขึ้น รวมไปถึงบริษัทต่างๆที่มีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้านโดยติดต่อสื่อสารกันทางออนไลน์แทน เพราะมีความสะดวกและลดการมาเจอหน้ากันหรืออยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากไวรัสหมดไปวิธีการนี้อาจจะมีการใช้ต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างเช่น ลดการบินไปเรียนต่างประเทศหรือบินมาเพื่อเจรจาทางการค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อธุรกิจการบินและธุรกิจโรงแรมได้
4. การเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบไร้รอยต่อ โลกจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบไร้การติดต่อนั้นสามารถแบ่งออกเป็นได้ 3 อย่างคือ
- การค้าแบบดิจิทัล (Digital Commerce) ในประเทศไทยเองมีการเติบโตทางการขายแบบออนไลน์กันมากขึ้น อย่างเช่น LAZADA , SHOPEE หรือ KONVY เป็นต้น
- การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ซึ่งอาจจะเป็นการดูแลผู้ป่วยทางไกลที่ไม่ซับซ้อนมาก อาจจะเป็นการให้คำแนะนำหรือปรึกษาเมื่อมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น
- ระบบอัตโนมัติ (Automation) เป็นการลงทุนระบบที่อำนวยความสะดวกเข้ามาทำงานแทนคน และลดการติดต่อ สัมผัส เช่น เครื่องรับเงินสดไร้คน
5. การปรับตัว ความยืดหยุ่นและการเพิ่มประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่ามาตรการการล็อคดาวน์นั้นจะถูกคลายลง ธุรกิจต่าง ๆ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการค้นหาวิธีการวางกลยุทธ์ทำงานให้ยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวในวิกฤติและปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อช่วยในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่จะช่วยให้ธุรกิจนั้นอยู่รอดและสามารถที่จะเติบโตได้ในระยะยาว
6. การปรับเปลี่ยนทั้งโครงสร้างทางอุตสาหกรรม, พฤติกรรมผู้บริโภค และจุดยืนทางการตลาด การระบาดของ COVID-19 นั้นสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อทัศนคติของคนต่อการติดต่อกันทางกายภาพ, สุขภาพ และความเป็นส่วนตัว อย่างเช่น การตระหนักถึงเรื่องสุขภาพที่มากขึ้น ซึ่งจะปรับเปลี่ยนวิธีการประทานอาหารของผู้คนไปจากเดิม ในส่วนของธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อการอยู่รอดในระยะยาวเพราะผู้คนจะปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เงินที่ประหยัดมากขึ้น และใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งจะส่งผลต่องบดุลและการประเมินมูลค่าธุรกิจ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิต่อไปได้
7. ค้นหาโอกาสในวิกฤติ จากการที่ไวรัส COVID-19 แพร่ระบาด หลายบริษัทหรือสถาบันการสอนต่างๆ ได้มีวิธีการใหม่ที่จะเชื่อมต่อหรือทำงานร่วมกันผ่านทางออนไลน์อย่างเช่น โปรแกรม Zoom, Skype หรือ FaceTime ซึ่งหลาย ๆ บริษัทเรียนรู้ที่จะออกแบบการทำงานให้ยืดหยุ่น ปรับตัวให้เร็ว จะผลักดันให้เกิดนวัตกรรมในการทำงานที่ง่ายขึ้นและต้นทุนถูก นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นใหม่ๆทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ การพัฒนาวัคซีน และกฎระเบียบที่ควบคุมการพัฒนาการคิดค้นยา ที่จะทำให้การรักษานั้นเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากสถานการณ์ COVID-19 นี้เองที่เป็นจุดตั้งต้นให้ผู้บริโภคจะเคลื่อนย้ายไปสู่พฤติกรรมใหม่ หรือ New Normal ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการติดต่อหรือรับรู้ข่าวสารต่างๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเหมือนกันทั่วโลก คือ ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น ดังนั้นการเข้าใจหรือการเรียนรู้ความปกติใหม่นี้ จะทำให้เราเข้าใจความเป็นไปของธุรกิจและพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันไม่มากก็น้อย
แหล่งที่มา : https://bit.ly/3bH03dz , https://bit.ly/2VFbw7Z , https://bit.ly/2S6RHEs