กรมการค้าต่างประเทศ มีประกาศออกมาว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 จะปิดระบบ Digital Signature (DS) สำหรับการยื่นขอ Form D (ATIGA) เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ รวมถึงเป็นการยกระดับงานบริการด้วยนวัตกรรมดิจิทัลของกรมการค้าต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้นำเข้าสามารถดำเนินพิธีการศุลกากรที่ประเทศปลายทางได้ โดยไม่ต้องขอรับ FORM D แบบกระดาษ และจะเปิดให้บริการด้วยระบบ Electronic Signature and Seal (ESS) เพื่อรองรับระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือรับรองฯ(OCP)ที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบ ESS ของกรมการค้าต่างประเทศ ได้เพิ่มการเชื่อมโยงกับอีก 2 ประเทศ คือ ประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดบริการให้แก่ประเทศในอาเซียนทั้ง 6 ประเทศ คือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม บรูไน และกัมพูชา ซึ่งเหลือเพียงประเทศเดียวที่อยู่ระหว่างการทดสอบการเชื่อมโยงข้อมูลของกรมฯ คือ ประเทศฟิลิปปินส์ ถ้าหากทุกประเทศในอาเซียนสามารถเชื่อมโยงระบบได้ทั้งหมด จะส่งผลให้การค้าขายภายในอาเซียนมีความคล่องตัวมากขึ้นและสามารถเพิ่มมูลค่าระหว่างกันได้มากขึ้นตามมาด้วย โดยรายละเอียดของประกาศจากกรมการค้าต่างประเทศมีรายละเอียดดังนี้
หัวข้อ | รายละเอียด | หมายเหตุ |
1. ช่อง 7 ของ Form D กรณีBack-to-Back CO | ระบุเลขที่อ้างอิง (Reference Number) และวันที่ ของ Form D ต้นฉบับ หรือเอกสารรับรองถิ่นกำเนิด สินค้าต้นฉบับ (Origin Declaration) จากประเทศ สมาชิกอาเซียนประเทศแรก |
- |
2. ช่อง 9 ของ Form D | ยกเลิกการระบุราคา FOB ในทุกเกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้า | ยกเว้น Form D ที่ส่งไป อินโดนีเซีย กัมพูชาและสปป. ลาว ให้ระบุราคา FOB เฉพาะ กรณีที่สินค้านั้นใช้เกณฑ์RVC เท่านั้น |
3. ระบบการให้บริการออก หนังสือรับรองฯ Form D | ใช้งานด้วยระบบ Electronic Signature and Seal (ESS) เท่านั้น | ใบต่อ (Attachment Form) ของ Form D Attach Sheet ยังคงเป็นการลงนามและ ประทับตราด้วยมือ (Manually) |