Social Distancing หรือที่เรียกกันว่า การเว้นระยะห่างจากสังคมในขณะนี้ เป็นการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งหลายองค์กรมีนโยบายให้พนักงาน work from home ลดการออกไปพบปะสังสรรค์หรือไปในที่สาธารณะ ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ลดการแพร่ระบาดและยังเป็นการป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากบุคคลอื่นอีกด้วย ความน่ากังวลของโควิด19 คือ ผู้ที่ป่วยหรือติดเชื้อในช่วงแรกมักไม่ค่อยแสดงอาการป่วยให้เห็นชัดเจน หลายคนยังมีสุขภาพดีอยู่ ทำให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ พบเจอคนหมู่มากแบบไม่ทันระวังตัว กว่าจะรู้ตัวก็แพร่เชื้อได้ทั่วทุกสถานที่ที่ไป ดังนั้นการเว้นระยะห่างจากสังคมจึงเป็นทางเลือกที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยสามารถทำได้หลายวิธี
 
1. การยืนหรือนั่ง ห่างกันประมาณ 1.5 - 2 เมตรในที่สาธารณะ
2. งดการรวมตัวกันในสถานศึกษา ที่ทำงาน หรือสถานบันเทิงต่างๆ อาจจะเปลี่ยนวิธีมาเป็น การเรียนออนไลน์ work from home หรือ ไลฟ์สด
3. เปลี่ยนระบบการทำธุรกิจ โดยการใช้แบบออนไลน์หรือการใช้โทรศัพท์ในการติดต่อกัน และปรับเวลาการทำงานให้ยืดหยุ่น
4. ปรับการไปห้องสมุดเป็นการจองแบบออนไลน์หรืออ่านแบบอิเล็กทรอนิกส์
5. หลีกเลี่ยงการเดินทางแบบสาธารณะทีมีคนหนาแน่นหรือปรับเปลี่ยนเวลาในการเดินทาง เช่น รถเมล์ เรือ รถไฟฟ้า
6. ลดความหนาแน่นในลิฟต์ โดยอาจมีการตีเส้นแบ่ง หรือใช้การเดินขึ้นลง บันไดแทน
7. หลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมเยียนญาติ หรือ ผู้ป่วย ให้ใช้ line หรือ video call แทนการไปพบปะโดยตรง
8. การทานอาหารจานเดียวหรือ ทานอาหารคนเดียว งดการทานแบบเป็นกลุ่ม เนื่องจากเวลาทานอาหารเราต้องถอดหน้ากากอนามัยเพื่อรับประทานอาหาร ดังนั้นเวลาทานอาหารจึงเป็นเวลาที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรทานแบบเก้าอีเว้นเก้าอี้ หรือวางโต้ะให้ห่างกัน และควรล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร
สรุปได้ว่า Social distancing หรือการ เว้นระยะห่างทางสังคม ถือเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อละอองฝอย และช่วยลดการติดต่อให้มีการแพร่กระจายให้น้อยลงหรือช้าลง ซึ่งทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ในทุกๆกิจวัตรประจำวันของเรา
 
แหล่งที่มา : https://bit.ly/2xZqj4c