ช่วงที่ไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันนี้ีมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศคู่ค้าของไทยอย่างประเทศจีน และญี่ปุ่น สินค้านำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นเหล็กและส่วนประกอบ ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ธุรกิจ หรือโรงแรม รวมถึงกลุ่มธุรกิจนำเข้า ส่งออก หากสถานการณ์นี้ยืดเยื้อ อาจส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและมีผลกระทบต่อการจ้างงานในประเทศได้
จากการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการเข้มงวดชัตดาวน์ประเทศในการควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้สินค้าส่งออกมีผลกระทบทั้งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ แรงงาน ทำให้เกิดการขาดแคลนวัตถุดิบ การชะลอหรือการยกเลิกคำสั่งจากคู่ค้า และกระทบต่อเนื่องไปยังภาคการผลิต การขนส่ง การบริโภคและการจ้างงาน ซึ่งสินค้าส่งออกที่ได้รับผลกระทบสูง ได้แก่ เคมีภัณฑ์ ยางพารา และสินค้าการเกษตร สินค้าส่วนใหญจะเป็นสินค้าเกษตรแปรรูป และวัตถุดิบอุตสาหกรรมที่เน้นส่งออกไปยังตลาดจีน
สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย
ส่วนในด้านการนำเข้าที่มีผลกระทบจากการหยุดผลิตหรือไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไทย ได้แก่ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน และเครื่องจักรและชิ้นส่วน สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อประกอบหรืออาจเป็นวัตถุดิบต้นทุนต่ำจากประเทศจีน ที่นำมาผลิต ประกอบเพื่อขายในประเทศหรือส่งออก เนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ทำให้ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดลง
สินค้านำเข้าที่สำคัญของไทย
ทางด้านผู้ประกอบการจะต้องเตรียมรับมือกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ ด้วยการหาแหล่งนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศอื่นมาทดแทนวัตถุดิบที่นำเข้าจากจีน ซึ่งในช่วงต้นไม่น่าขาดแคลนมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการผลิตสินค้าจากวัตถุดิบที่ยังเหลืออยู่ และอาจนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศอื่นซึี่งมีต้นทุนที่สูงตามมาด้วย ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่นำเข้าจากจีนส่วนใหญ่เป็นกิจการ SME และรองลงมาคือกิจการขนาดใหญ่ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมีการปรับวิกฤติให้เป็นโอกาสและรับมืออย่างมีสติ เพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์ในช่วงนี้ไปให้ได้
แหล่งที่มา : https://www.smethailandclub.com/marketing-5555-id.html