จากสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ กรมศุลกากรมีประกาศการยกเว้นอากรสำหรับหน้ากากอนามัยและวัตถุดิบที่นำเข้ามาเพื่อผลิตจริง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ 3) โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
(ก.) ของที่ได้รับการยกเว้นอากรจะต้องนำไปใช้ผลิต
- หน้ากากชนิดที่ใช้ในห้องผ่าตัด
- หน้ากากกรองฝุ่น หมอกควัน หรือสารพิษ บรรดาที่เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย


ภายในกำหนดเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่นำของเข้า
(ข.) ผู้นำของเข้าต้องยื่นขออนุมัติก่อนการนำเข้าและจำได้รับการยกเว้นอากรเมื่อได้รับอนุมัติ
** หากปรากฎในภายหลังว่าของที่ได้รับการยกเว้นอากรไม่สามารถหรือมิได้นำไปใช้ผลิต ภายในกำหนดระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่นำของเข้า ผู้นำของเข้าจะต้อชำระอากรตามปกติ หรือส่งของนั้นออกไปนอกราชอาณาจักร
** หากมีเหตุจำเป็นต้องขยายเวลาให้ขอต่ออธิบดีกรมศุลกากรก่อนครบกำหนดดังกล่าว อธิบดีกรมศุลกากรอาจอนุญาตให้ขยายเวลาได้ไม่เกินหกเกือน
 
อัตราอากรนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 และให้สิ้นผลบังคับใช้วันที่  20 กันยายน 2563
ส่วนในเรื่องการส่งออกหน้ากากอนามัยในปัจจุบันนี้ คือ ”ห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย” ภายใต้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ  ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณา คือ
1) หน้ากากอนามัยที่ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในประเทศ
2) สินค้าที่มีลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ
3) โรงงานที่ผลิตได้รับบีโอไอให้ผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น รวมถึงหน้ากากเฉพาะที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ถึงจะอนุญาตให้ส่งออกได้
โดยรวมถึงการส่งออกที่มีการใช้หนังสืออนุญาตการส่งออกหน้ากากอนามัย ยืนยันว่าไม่อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศ หากส่งออกจะต้องรับผิดจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
ตามตัวอย่างด้านล่าง 

แหล่งที่มา : https://bit.ly/2Vb6DlB
https://bit.ly/2x2UMOL