5 ท่าเรือสำคัญในประเทศไทย
การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) หรือ Port Authority of Thailand (PAT) มีการบริหารจัดการท่าเรือในประเทศไทยทั้งหมด 5 แห่ง ซึ่งแต่ละท่าเรือมีความสำคัญและประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดมีเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
1. **ท่าเรือกรุงเทพ (ท่าเรือคลองเตย)**
ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นท่าเรือคอนเทนเนอร์เต็มรูปแบบที่ให้บริการขนส่งสินค้าทั่วไป ตู้สินค้าทางทะเล และสินค้า Ro/Ro (Roll-on/Roll-off) รวมทั้งการขนส่งภายในประเทศ ท่าเรือกรุงเทพมีอุปกรณ์สำหรับการขนย้ายสินค้า เช่น รถยก รถปั้นจั่นเคลื่อนที่ และรถหัวลาก นอกจากนี้ยังให้บริการขนส่งตู้สินค้าระหว่างท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง
อย่างไรก็ตาม ท่าเรือกรุงเทพมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ เนื่องจากตั้งอยู่ในเมือง ทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่ได้ จึงมีการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ระหว่างประเทศ
2. **ท่าเรือแหลมฉบัง**
ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ภาคตะวันออกของประเทศไทย และเป็นท่าเรือน้ำลึกหลักสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มีพื้นที่กว้างถึง 6,340 ไร่ ท่าเรือนี้มีความสามารถในการรับเรือขนาดใหญ่ เช่น เรือ Panamax ซึ่งสามารถรับสินค้าทั้งตู้คอนเทนเนอร์และสินค้าทั่วไป ท่าเรือแหลมฉบังมีท่าเทียบเรือทั้งหมด 11 ท่า และสามารถรองรับตู้สินค้ากว่า 10 ล้านตู้ต่อปี
3. **ท่าเรือระนอง**
ท่าเรือระนอง ตั้งอยู่ที่จังหวัดระนอง บนฝั่งทะเลอันดามัน เป็นจุดสำคัญในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศในเอเชียใต้ แอฟริกา และยุโรป ท่าเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุกและตู้สินค้า, ด่านตรวจสอบสินค้า, และอาคารให้บริการต่าง ๆ ท่าเรือระนองยังมีเครื่องมือช่วยยกขนสินค้าหลายประเภท เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการ
4. **ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน**
ท่าเรือเชียงแสนจังหวัดเชียงรายเป็นจุดเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน รวมทั้งประเทศจีน เมียนมา และลาว ท่าเรือนี้สนับสนุนการขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำโขง โดยมีอุปกรณ์การขนย้ายและบริการต่าง ๆ เช่น รถปั้นจั่นเคลื่อนที่, เครื่องชั่งน้ำหนัก และปลั๊กเสียบตู้สินค้าห้องเย็น
5. **ท่าเรือเชียงของ**
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในจังหวัดเชียงราย ท่าเรือเชียงของมีท่าเทียบเรือขนาด 24 เมตร และยาว 180 เมตร มีการให้บริการต่าง ๆ ภายในพื้นที่เดียวกัน (One Stop Service) โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร, กรมสรรพสามิต, และด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
--
ท่าเรือทั้ง 5 แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศและการขนส่งสินค้าในภาคโลจิสติกส์ของประเทศไทย โดยมุ่งมั่นให้บริการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก
ที่มา: https://www.wspprowork.com/content/28918/5-%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2