รู้จัก 6 เส้นทางขนส่งผลไม้ไทยไปจีน
10 March 2023
รู้จัก 6 เส้นทางขนส่งผลไม้ไทยไปจีน
ในช่วงฤดูกาลผลไม้โดยเฉพาะ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง กำลังมุ่งสู่ตลาด ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเจ้าของสวน และนำเม็ดเงินเข้าประเทศไทยชาติในแต่ละปีละจำนวนมหาศาล โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากรายงานสถานการณ์การส่งออกผลไม้สดจากไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนของกลุ่มบริการส่งออกสินค้าเกษตร กรมวิชาการเกษตร รายงานว่า การส่งออกผลไม้สดไทย ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 กรกฎาคม 2565 มียอดการส่งออกแล้วกว่า 64,903 ชิปเมนต์ ปริมาณกว่า 1.16 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.2 หมื่นล้านบาท โดยแยกเป็นการส่งออกทางเรือ 7.06 แสนตัน การส่งออกทางบก 4.2 แสนตัน และการส่งออกทางอากาศ 3.2 หมื่นตัน อีกทั้งยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจีนในผลไม้สดไทยส่งออกที่สามารถครองแชมป์อันดับ 1 คือ ทุเรียนส่งออกแล้วปริมาณกว่า 6.7 แสนตัน 39,834 ชิปเมนต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.2 หมื่นล้านบาทรู้จัก 6 เส้นทางขนส่งผลไม้ไทยไปจีน
ปัจจุบันเส้นทางการส่งออกไปยังจีนจากเดิมไปทางเรืออย่างเดียวและต้องผ่านหลายขั้นตอน อาทิ ทางเรือจากแหลมฉบังผ่านเวียดนาม ฮ่องกง กว่าจะถึงมณฑลกวางโจ หรือเซี่ยงไฮ้ของจีน ใช้เวลาเกือบ 2 อาทิตย์ (เฉลี่ย 12-13 วัน) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลไม้ไทยหลายทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน ลองกอง ชมพู่ แก้วมังกร มะพร้าว มะม่วง แตงโม กล้วย ขนุน และน้อยหน่า ซึ่งจะเก็บได้ไม่เกิน 7 วัน
อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้มีทางเลือกเพิ่มแล้ว คือ การขนส่งทางบกด้วย ทำให้ปัจจุบันไทยสามารถส่งผลไม้ไปยังจีนได้ 4 เส้นทาง และกระทรวงเกษตรเกษตรและสหกรณ์ ได้เจรจาขอเพิ่มช่องทางใหม่อีก 2 ช่องทางหลังจากที่การส่งออกผลไม้ไทยประสบปัญหาเกี่ยวกับระเบียบใหม่ในการนำเข้าผลไม้ของจีนที่จะผ่านด่านโหย่วอี้กวน เกิดความล่าช้า และสร้างความเสียหายให้กับผู้ส่งออกของไทย
สำหรับ 4 เส้นทางส่งออกผลไม้ไทยไปยังจีน คือ
1.ทางเรือจากแหลมฉบัง สู่ท่าเรือกวางโจว
2.ทางเรือจากแหลมฉบัง สู่ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ที่เป็นศูนย์กลางกระจายผลไม้ไทยไปฝากฝั่งทะเลจีน
3.ถนนหมายเลข 9 หรือ R9 จากมุกดาหาร ผ่านดานัง เข้าพักที่ฮานอย แล้วสู่ปักกิ่ง เป็นศูนย์กลางการกระจายผลไม้ไทยไปยังภาคเหนือของจีน โดยมีตลาดซินฟาดี้ ซึ่งเป็นตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง โดยใช้เวลาเพียง 36 ชั่วโมง
4.ถนนสายR 3A จากเชียงของ จ.เชียงราย ผ่าน ส.ป.ป.ลาว สู่ทางใต้ของจีนผ่านเมืองสิบสองปันนา คุนหมิง ไปพักที่มณฑลเสฉวน กระจายผลไม้ไทยสู่ภาคใต้ และชายแดนทิเบต หรือจะเข้ามาสู่ปักกิ่งก็ได้
เพิ่ม 2 เส้นทางพิเศษ ความหวังผลไม้ไทย
ล่าสุดระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งจัดทำพิธีสารเปิดเส้นทางการขนส่งใหม่เพิ่มอีก 2 เส้นทาง คือ R12 จาก จ.นครพนม และผ่านด่านตงซิง หลังผู้ประกอบการส่งประสบปัญหาการล้าช้า (กรณีด้ายโหย่วอี้กวนแออัด) สร้างความเสียหายให้ทุเรียนไทยจำนวนมาก ที่เกิดจากระเบียบใหม่ของจีน รวมถึงการจัดการโลจิสติกส์ และการจัดพื้นที่การเดินรถในด่านโหย่วอี้กวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำและหารือรายละเอียดของพิธีสารก่อนลงนามต่อไป แต่อย่างที่หลายท่านทราบปัจจุบันผลไม้ไทยยังไม่สามารถเข้าด่านตงชิงได้ ต้องไปพักที่เวียดนามก่อน ให้คู่ค้าเวียดนามขนข้ามไป
เส้นทาง R 12 ผ่าน เริ่มจาก จ.นครพนม-ด่านท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว-จังหวัด Quang Binh จ. Lang Son ของเวียดนามเข้าสู่จีน โดย ผ่านด่านผิงเสียง มณฑลกว่างซี ซึ่งเมืองผิงเสียงมี “ตลาดผลไม้เมืองผิงเสียง” (Pingxiang City) ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของจีน เป็นตลาดที่สามารถใช้เป็นประตูให้กับผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้ มีความสะดวกสบาย มีการบริหารจัดระบบโลจิสติกส์ดี และผ่านพิธีการศุลกากรได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผลไม้ ไม่เน่าเสีย
ทั้งนี้ เมืองผิงเสียง เป็นอำเภอระดับเมืองที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเมืองฉงจั่ว มณฑลกว่างซี เป็นเมืองชายแดนที่มีแนวพรมแดนติดกับ 3 อำเภอในจังหวัด Lang Son ประเทศเวียดนาม และสามารถเดินทางต่อไปถึง สปป.ลาว และไทย ตามเส้นทาง R 8 บึงกาฬ หนองคาย รวมถึงถนนสาย R9 มุกดาหาร และ R12 นครพนม ถือเป็นระยะทางสั้นที่สุดและสะดวกที่สุดของจีนที่ใช้เชื่อมต่อกับอาเซียน และยังเป็นข้อต่อสำคัญในยุทธศาสตร์ “มุ่งลงใต้” จากจีนไปยังสิงคโปร์
ส่วน “ด่านตงซิง” เป็นด่านการค้าผลไม้ แห่งใหม่ของเขตกว่างซีจ้วง และได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ด่านแห่งนี้ส่วนใหญ่นิยมผ่านตามถนนเส้นทาง R 8 มีจุดเริ่มต้นที่ จ. บึงกาฬ เข้าเขตปากซันของ สปป.ลาว ผ่านเมืองวิงห์ มุ่งสู่ กรุงฮานอยของเวียดนาม และไปสิ้นสุดที่กว่างซีเช่นกัน
นี่คือเส้นทางหลักๆในการส่งส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีน นับเป็นมิติใหม่ที่ดีสำหรับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ของไทย ที่จะได้ตลาดรองรับมากขึ้นในอนาคต
ที่มา: https://www.transtimenews.co/5154/