ผู้ประกอบการที่นำเข้าหรือส่งออกสินค้าจำเป็นจะต้องรู้กฎระเบียบข้อบังคับในการนำเข้าและส่งออกเนื่องจากหากฝ่าฝืนกฎระเบียบเหล่านั้นจะต้องรับบทลงโทษตามฐานความผิดที่ก่อขึ้น ซึ่งฐานความผิดที่สำคัญเมื่อนำเข้าส่งออกสินค้ามีดังนี้
1.ความผิดฐานสำแดงเท็จฯ
เป็นการสำแดงข้อมูลหรือเอกสารใดๆแก่กรมศุลกากรซึ่งไม่ตรงกับหลักฐานเอกสารและข้อเท็จจริงในการนำเข้าส่งออกเพื่อเสียอากรหรือปฏิบัติตามกฎหมายไม่ถูกต้องครบถ้วนซึ่งอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดได้
โทษ = ความผิดฐานสําแดงเท็จระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน
2.ความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร
การลักลอบหนีศุลกากรหมายถึงการนำของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษีอากรหรือของที่ควบคุมการนำเข้าหรือของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาหรือส่งออกไปนอกประเทศไทย
โทษ = ความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรระวางจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของรวมค่าอากรขาเข้าหรือทั้งจําทั้ง ปรับและให้ริบของไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคําพิพากษาหรือไม่
3.ความผิดฐานหลีกเลี่ยงอากร
เป็นการหลีกเลี่ยงการเสียอากรเพื่อไม่ต้องเสียหรือชำระในจำนวนที่น้อยกว่าที่จะต้องชำระเช่น การสำแดงพิกัดอัตราศุลกากรไม่ถูกต้อง, การสำแดงราคาต่ำกว่าที่ซื้อขาย ฯลฯ
โทษ = ความผิดฐานหลีกเลี่ยงอากรระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ครึ่งเท่า แต่ไม่เกิน 4 เท่าของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่มหรือทั้งจําทั้งปรับและศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่
4.ความผิดฐานนำเข้าของต้องห้ามต้องกำกัดเข้ามาหรือส่งออกนอกราชอาณาจักร
ของต้องห้าม คือของที่มีกฎหมายห้ามมิให้นำเข้าหรือส่งออกเช่นวัตถุลามกของที่มีการแสดงถิ่นกำเนิดเป็นเท็จของที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาเป็นต้นส่วนของต้องกำกัดคือของที่จะนำเข้า-ส่งออกได้ ต้องได้รับอนุญาตหรือปฏิบัติให้ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ
โทษ = ให้ริบของที่หลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อกำกัดและปรับเป็นเงิน 4 เท่าของของราคารวมค่าภาษีอากรหรือจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือทั้งปรับและจำ
https://bit.ly/3SI3GF8